สมบัติของสารประกอบของธาตุตามคาบ
สารประกอบของธาตุในคาบที่ 2 และคาบที่ 3
จะนีแนวโน้มของสมบัติต่างๆ ดังนี้ คือ
ธาตุหมู่ IA , IIA , IIIA
จะเกิดสารประกอบคลอไรด์ , ออกไซด์ได้เพียงชนิดเดียว
และมีเลขออกซิเดชันเพียวค่าเดียว
ธาตุหมู่ IV ขึ้นไปจะเกิดสารประคลอไรด์ , ออกไซด์
ได้หลายชนิดและมีเลขออกซิเดชัน ได้หลายค่า
เเต่ค่าสูงสุดจะเท่ากับจำนวนเวเลนซ์อิเล็กตรอน
สมบัติของสารประกอบคลอไรด์ของธาตุในคาบที่ 2
และ 3
1.
แนวโน้มของจุดหลอมเหลวของสารประกอบคลอไรด์ของธาตุในคาบที่ 2 และ 3 จะลดลงจากซ้ายไปขวา นั่นคือคลอไรด์ของโลหะ (ซ้าย) มีจุดหลอมเหลวสูงมาก
เพราะเป็นสารประกอบไอออนิก
ส่วนคลอไรด์ของอโลหะ (ขวา)
จะมีจุดหลอมเหลวต่ำลง
เพราะเป็นสารประกอบ โควาเลนต์
ไม่นำไฟฟ้า
2.
คลอไรด์ของธาตุหมู่ 3
BCl3 (คาบ
2) มีสถานะเป็นแก๊ส (สารโคเวเลนต์) AlCl3
(คาบ 3)
มีสถานะเป็นของแข็ง (สารไอออนิก)
3.
คลอไรด์ของธาตุหมู่ 4 CCl4 (คาบ 2)
SiCl4 (คาบ 3) เป็นของเหลว ไม่มีขั้ว
จึงไม่ละลายน้ำ มีรูปร่างเป็นทรงสี่หน้า
4.
คลอไรด์ของธาตุหมู่ 5 NCl3 เป็นของเหลว
PCl3 เป็นของเหลว
ส่วน PCl5 เป็นของแข็ง
5.
คลอไรด์ของธาตุหมู่ 6 Cl2O
(คาบ 2) เป็นแก๊ส , SCl2 (คาบ 3) เป็นของเหลว เพราะมวลโมเลกุลมากขึ้น แรงแวนเดอร์วาลส์แข็งแรงมากขึ้น
6.
คลอไรด์ของธาตุหมู่ 7
เป็นแก๊สทั้งหมด
สารประกอบดลอไรด์
คุณสมบัติ
|
สารประกอบคลอไรด์ของโลหะ
|
สารประกอบคลอไรด์ของอโลหะ
|
จุดเดือด
|
สูง
|
ต่ำ
|
จุดหลอมเหลว
|
สูง
|
ต่ำ
|
ความเป็นกรด-เบสของสารละลาย
|
กลาง
ยกเว้นBeCl2 และ NaCl3 ซึ่งป็นกรด
|
กรด
|
สารที่ไม่ละลายน้ำ
|
CCl4
NCl5
|
-
|
สมบัติของสารประกอบออกไซด์ของธาตุในคาบที่ 2
และ 3
1.
ออกไซด์ของอโลหะมีจุดหลอมเหลวต่ำ
มีสถานะเป็นแก๊ส
แต่ออกไซด์ของธาตุหมู่ 5 บางชนิด
เช่น N2O5 (คาบ 2)
, P4O10 (คาบ 3)
มีสถานะเป็นของแข็ง
2.
สมบัติความเป็นกรด–เบส
เป็นไปตามออกไซด์ของโลหะหมู่ IA–IIA (เบส) ออกไซด์ของอโลหะ (กรด) และออกไซด์ของกึ่งโลหะ Be และ
Al มีสมบัติเป็นได้ทั้งกรดและเบส
3.
ออกไซด์ของอโลหะละลายน้ำเป็นกรด
ยกเว้น อกไซด์ของ H
คือ H2O เป็นกลาง
CO2(g) + H2O(l) --------> H2CO3(aq)
SO2(g) + H2O(l) --------> H2SO3(aq)
สำหรับ
SiO2 ไม่ละลายน้ำ
แต่มีสมบัติเป็นกรด
โดยทำปฏิกิริยากับเบสได้ดังนี้
SiO2(s) + NaOH(aq)
---------> Na2SiO3(aq)
+ H2O(l)
4.
ออกไซด์ของโลหะละลายน้ำเป็นเบส
Li2O(s) + H2O(l)
---------> 2 LiOH(aq)
Na2O(s) + H2O(l)
---------> 2 NaOH(aq)
5.
ออกไซด์ที่ไม่ละลายน้ำและมีสมบัติเป็นได้ทั้งกรดและเบส
(โดยสามารถเกิดปฏิกิริยาได้ทั้งกับกรดหรือเบส) คือ BeO และ Al2O3
BeO(s)
+ 2 NaOH(aq) + H2O(l)
---------> Be(OH)2-4(aq)
+ 2 Na+(aq)
BeO(s)
+ 2 HCl(aq) ---------> BeCl2(aq) + H2O(l)
Al2O3(s) + 2 NaOH(aq) + 3 H2O(l) ---------> 2 Na+(aq) + 2Al(OH)-4(aq)
Al2O3(s) + 6 HCl(aq)
---------> 2 AlCl3(aq)
+ 3 H2O(l)
6.
ออกไซด์ของอโลหะเป็นแก๊สหรือของเหลว
ยกเว้น SiO2 , P4O10 , N2O5
สารประกอบออกไซด์
คุณสมบัติ
|
สารประกอบออกไซด์ของโลหะ
|
สารประกอบออกไซด์ของอโลหะ
|
จุดเดือด
|
สูง
|
ต่ำ
|
จุดหลอมเหลว
|
สูง
|
ต่ำ
|
ความเป็นกรด-เบสของสารละลาย
|
เบส
|
กรด
|
สารที่ไม่ละลายน้ำ
|
BeO Al3O3
|
SiO2
|
ธาตุหมู่ VI ชาลโคเจน
1. มีเวเลนส์อิเล็กตรอนเท่ากับ 6
2. มีเลขออกซิเดชันได้หลายค่า ตั้งแต่ -2 ถึง+6
3. จุดเดือด
จุดหลอมเหลวสูงมากเมื่อเทียบกับหมู่VII ส่วนใหญ่เป็นสารประกอบประเภทโครงร่างตาข่าย
ธาตุหมู่ VII เฮโลเจน
1. มีเวเลนส์อิเล็กตรอนเท่ากับ 7
2. มีเลขออกซิเดชันได้หลายค่า ตั้งแต่ -1 ถึง
+7
3. เป็นธาตุหมู่เดียวที่1 โมเลกุล มี 2
อะตอมเรียกว่า Diatomic
Molecule
4. พบเป็นธาตุอิสระในธรรมชาติ
และพบในรูปของสารประกอบไอออนิกและโคเวเลนต์
5. สารประกอบของหมู่ VII ส่วนใหญ่ละลายน้ำได้ดี
ยกเว้นเป็นสารประกอบของ Ag
Hg Pb
ธาตุหมู่ VIII แก๊สเฉื่อย , แก๊สมีตระกูล , Inert gas , Noble gas
1. มีเวเลนส์อิเล็กตรอนเท่ากับ 8 ยกเว้น He มีเท่ากับ
2
2. เฉื่อยชาต่อการเกิดปฏิกิริยามาก
แต่สามารถสังเคราะห์ได้
3. มีค่า IE (Ionization Energy) สูงสุดในตาราง และ He มีค่า IE สูงที่สุดในตารางธาตุ
4. เป็นธาตุเดียวที่ไม่มีค่า EN
ตำแหน่งของธาตุไฮโดรเจนในตารางธาตุ
สรุป ธาตุไฮโดรเจนมีสมบัติคล้ายหมู่ VIIA
หลายหระการ แต่ไม่สามารถนำธาตุไฮโดรเจนมาจัดในหมู่ VIIA ได้
เพราะ จะทำให้แนวโน้มของสมบัติบางประการของธาตุหมู่VIIA เสียไป
ปัจจุบันจึงจัดธาตุไฮโดรเจน อยู่ในคาบที่ 1 อยู่ระหว่างหมู่ IA กับ
VIIA
ธาตุแทรนซิซัน
ธาตุทรานซิชัน ประกอบด้วยธาตุ
หมู่ IB ถึงหมู่
VIIIB รวมทั้งกลุ่มแลนทาไนด์กับกลุ่มแอกทิไนด์
1. อยู่ระหว่างหมู่IIA กับหมู่
IIIA เริ่มตั้งแต่คาบ
4 เริ่มที่เลขอะตอม 21
2.การจัดเรียงอิเล็กตรอนจะต่างจากธาตุโดยทั่วไป
คือ จะจัดเรียงอิเล็กตรอนวงนอกสุดก่อน
แล้วจัดอิเล็กตรอนวงรองจากวงนอกสุดเป็นวงสุดท้าย
3.การดึงอิเล็กตรอนให้หลุดจากอะตอม
จะดึงอิเล็กตรอนวงนอกสุดก่อน เช่นเดียวกับธาตุปกติ
4.ธาตุทรานซิชัน จะมีเวเลนต์อิเล็กตรอน เป็น
2,1 เท่านั้น ยกเว้น Cr กับ
Cu มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากับ
1
5.ธาตุทรานซิชัน
จะมีสมบัติเหมือนกันเป็นคาบมากกว่าเป็นหมู่
6.ความหนาแน่นของธาตุทรานซิชันจะสูงมาก
และในคาบเดียวกันจะมีความหนาแน่นที่ใกล้เคียงกัน
7.จุดเดือดและจุดหลอมเหลวของธาตุทรานซิชันจะสูงมาก
และสูงมากกว่าหมู่IAและหมู่IIA
8.ค่า IE , EN , E0
ของธาตุทรานซิชันจะสูงมากกว่าโลหะโดยทั่วไป
9.ขนาดอะตอมของธาตุทรานซิชันที่เรียงตามคาบจากซ้ายไปขวาจะมีขนาดเล็กลง
แต่ใกล้เคียงกันมาก เพราะโลหะทรานซิชัน มีความหนาแน่นสูง
10.ธาตุทรานซิชัน มีเลขออกซิเดชันหลายค่า ยกเว้น Sc กับ Zn มีเลขออกซิเดชันเพียงค่าเดียว
สารประกอบของธาตุทรานซิชัน
1.การเกิดสี
1.สีของธาตุทรานซิชันจะเปลี่ยนเมื่อเลขออกซิเดชันเปลี่ยน เช่น Si
2.สีจะเปลี่ยนถ้าสารหรือไอออนต่างชนิดกันมาล้อมรอบ
เช่น
CuSO4.5H2O สีฟ้า
และ Cu(NH3)4SO4 สีคราม
3.สีเปลี่ยนเพราะจำนวนสารที่มาเกาะไม่เท่ากัน
เช่น CrO42-สีเหลือง และ Cr2O72-
2.สารประกอบเชิงซ้อนของธาตุทรานซิชัน
สารประกอบของธาตุทรานซิชันชนิดต่างๆ เช่น KMnO4
ประกอบด้วย K+ และ MnO-4 ซึ่ง MnO-4
จัดเป็นไอออนเชิงซ้อน
ที่มีธาตุทรานซิชันเป็นอะตอมกลางและยึดเหนี่ยวกับอะตอมหรือไอออนอื่นๆที่มาล้อมรอบด้วยพันธะโคเวเลนต์
สารประกอบที่ประกอบด้วยไอออนเชิงซ้อนจัดเป็นสารประกอบเชิงซ้อน
ธาตุทรานซิชันส่วนใหญ่จะเกิดเป็นสารประกอบเชิงซ้อนที่มีสีต่างกัน
ปัจจัยที่มีผลต่อสีของสารประกอบเชิงซ้อนของธาตุทรายซิชัน
- เลขออกซิเดชันของธาตุทรานซิชัน
- ชนิดของธาตุทรานซิชัน
- จำนวนโมเลกุลหรือไอออนที่ล้อมรอบธาตุทรานซิชัน
วิดีโอ
วิดีโอ
*** ขออนุญาตเจ้าของวิดีโอ***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น